Overview

Occurrence of the Second World War


สงครามโลกครั้งที่สอง เกิดจากสองฝ่าย ซึ่งประกอบไปด้วย ฝ่ายเผด็จการ(ฝ่ายอักษะ) ประกอบด้วย เยอรมัน ญี่ปุ่น อิตาลี และ ฝ่ายต่อต้านเผด็จการ (กองกำลังสัมพันธมิตร) ซึ่งสงครามครั้งนี้เป็นความพิบัติอย่างใหญ่หลวงต่อมวลมนุษย์ชาติ สงคราม จบด้วยสหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต เครือจักรภพอังกฤษ และประเทศพันธมิตรอื่นๆ และประชน และทหารกล้าที่เข้าปกป้องจากการโจมตีของระบบเผด็จการ

สงครามโลก ครั้งที่2 นั้น เป็นผลของการดำเนินการรุกรานเพื่อขยายจากสามประเทศฟาสซิสต์ ของเยอรมนี ญี่ปุ่น และ อิตาลีได้ตกลงในการทหารเพื่อขยายอำนาจ ในสงครามครั้งนี้ หลังจากสงครามโลกครั้งแรกจบลง ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ชัยชนะกับฝ่ายอักษะ ซึ่งได้ทำ สนธิสัญญาแวร์ซายส ซึ่งสนธิสัญญานี้ได้สร้างความเสียเปรียบอย่างมากกับฝ่ายผู้ที่แพ้สงคราม ฝ่ายผู้แพ้ถูกบังคับให้ลงนามในสนธิสัญญาแวร์ซายส์ ซึ่งมีผลทำให้เยอรมนีสูญเสียดินแดนไป 13% จากอาณานิคมทั้งหมด และชาวเยอรมันบางส่วนถูกผนวกรวมเข้ากับประเทศอื่น ซ้ำยังต้องถูกจำกัดขนาดกองทัพ และต้องแบกภาระในการชำระค่าปฏิกรรมสงครามจำนวนมากมายมหาศาลและได้สร้างความโกรธแค้นให้กับ ประเทศเหล่านั้นเป็นอย่างมาก

สำหรับรัสเซียการเกิดสงครามกลางเมืองนำไปสู่การก่อตั้งสหภาพโซเวียตภายใต้การปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ ซึ่งภายหลังการถึงแก่อสัญกรรมของเลนิน โจเซฟ สตาลินได้ขึ้นสู่อำนาจ และยกเลิกนโยบายเศรษฐกิจใหม่ โดยหันไปใช้แผนการห้าปีแทน

ประเทศอิตาลี ภายหลังที่ เบนิโต มุสโสลินีได้ยึดอำนาจปกครองประเทศ แล้วตั้งตนเป็นผู้เผด็จการฟาสซิสต์ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะสร้าง "จักรวรรดิโรมันใหม่" อีกครั้ง

ทางด้านเอเชีย
ทางด้านประเทศจีน รัฐบาลพรรคก๊กมินตั๋งได้เริ่มการจัดทัพรวมชาติขึ้น ต่อต้านเหล่าขุนศึกอิสระ จนนำไปสู่การรวมชาติแต่เพียงในนามราวช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1920 หลังจากนั้นไม่นาน รัฐบาลจีนกลับต้องเข้าไปพัวพันในสงครามกลางเมืองเพื่อต่อต้านพันธมิตรเก่า พรรคคอมมิวนิสต์จีน ในปี คริสตศักราช 1931

และจักรวรรดิญี่ปุ่น ซึ่งต้องการจะมีอิทธิพลเหนือประเทศจีนมาเป็นเวลานาน ก็มีการเพิ่มกำลังทหารในจีนขนานใหญ่ เพื่อเป็นแผนการขั้นแรกในการเข้าปกครอง ทั้งทวีปเอเชีย โดยใช้กรณีมุกเดน เป็นข้ออ้างในการรุกรานแมนจูเรีย และจัดตั้งรัฐหุ่นเชิด แมนจูกัว จีนได้ขอความช่วยเหลือจากสันนิบาติชาติ ญี่ปุ่นจึงลาออกจากองค์กรหลังมีการประณามการรุกรานดังกล่าว หลังจากนั้นทั้งสองชาติได้เกิดการกระทบกระทั่งขนาดย่อยขึ้นอีกหลายครั้ง จนกระทั่งนำไปสู่การพักรบตางกู ในปี คริสตศักราช 1933 แต่ถึงกระนั้น กองกำลังอาสาจีนก็ยังคงต่อต้านกองทัพญี่ปุ่นต่อไปในอีกหลายพื้นที่ ทั้งในแมนจูเรียและมองโกเลียใน

เหตุการณ์สำคัญต่อมาคือการที่เยอรมนี ซึ่งมีรัฐบาลเป็นกลุ่มนิยมนาซีเริ่มสะสมอาวุธขึ้นมาใหม่อีกรอบ นำโดยอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) 1933 ผู้นำพรรคนาซี ได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง Chancellor ของประเทศเยอรมัน และเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศในที่สุด

ฮิตเลอร์ได้เริ่มฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังตกต่ำอย่างรวดเร็ว และในวันที่ 16 มีนาคม 1935 ฮิตเลอร์ก็ประกาศเสริมสร้างกองทัพเยอรมันขึ้นใหม่ ซึ่งเท่ากับเป็นการฉีกสนธิสัญญาแวร์ซายโดยใช้ข้ออ้างว่าป้องกันตัวเอง ทำให้พันธมิตรนิ่งเฉยต่อการดำเนินการของฮิตเลอร์ ทำให้ทะเลาะกับฝรั่งเศสและอังกฤษ ซึ่งในช่วงที่อังกฤษกับฝรั่งเศส อยู่กับเยอรมนี อิตาลีก็ฉวยโอกาสรุกรานเอธิโอเปียในปี 1935 ชนิดไม่สนหน้าใครทั้งนั้น จังหวะเดียวกันกับที่ประชาคมโลกหันไปสนใจศึกอิตาลี-เอธิโอเปีย ในปี 1936 เยอรมนีก็ฉวยโอกาสกลับเข้าไปยึดแคว้นไรน์กลับคืนจากฝรั่งเศส โดยไม่สนว่าจะละเมิดสนธิสัญญาแวร์ซายส์ ด้านอังกฤษที่มัวแต่กังวลกับเอธิโอเปียก็ไม่ค่อยใส่ใจกับเสียงโวยวายของฝรั่งเศส จึงปล่อยให้เหตุการณ์บานปลายไปเรื่อยๆ ระหว่างที่สัมพันธมิตรมัวแต่แตกคอ เยอรมนีกับอิตาลีก็ขยายอิทธิพลเข้าไปแทรกแซงในสงครามกลางเมืองของสเปน และช่วยให้ฝ่ายทหารของนายพลฟรังโกได้รับชัยชนะ ในบรรยากาศแห่งความฮึกเหิมนี้ เยอรมนีได้ใจมากเลยรุกรานเข้าไปในออสเตรียและแทรกซึมกิจการภายในของเชโกสโลวะเกีย จนยึดดินแดนได้ โดยผิดสัญญาที่ให้ไว้กับอังกฤษ จากนั้นรุ่งอรุณของวันที่ 1 กันยายน 1939 โปแลนด์ ก็ได้ถูกเยอรมันเข้าโจมตี วันที่ 2 กันยายน อังกฤษและฝรั่งเศส ในฐานะประเทศพันธมิตรของโปแลนด์ ยื่นคำขาดต่อฝ่ายเยอรมัน ให้ถอนทหารออกจากโปแลนด์ แต่ได้รับการปฎิเสธ ประกาศสงครามกับเยอรมนีในวันที่ 3 ก.ย. 1939

จนเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามที่ยาวนาน กว่า 5 ปี สงครามโลกครั้งที่สอง


Second World War Advancement

ในสงครามครั้งนี้มีช่วงระยะเวลาของสงครามออกได้เป็นสามช่วง คือ ช่วงของการ รุกรานทางยุทธศาสตร์ ของ อำนาจเผด็จการการ สู้รบกัน ซึ่งกันและกัน และ การต่อต้านจากฝ่ายพันธมิตร

การโจมตีของฝ่ายอักษะ และ การต่อต้านจากฝ่ายพันธมิตร
ประเทศ พันธมิตร ของ เยอรมนี อิตาลี และ ญี่ปุ่น เปิด ศึกยุทธศาสตร์ ของ พวกเขา ในยุโรป แอฟริกา เอเชีย โอเชียเนีย มหาสมุทรแปซิฟิก และ มหาสมุทร แอตแลนติก จาก กันยายน 1939 ใน ครึ่ง หลัง ของ ปี1942

สมรรภูมิด้านตะวันตก
เยอรมันนีได้เปิดการโจมตีสงครามในสามจุดยุทธ์ศาตร์ด้านเหนือ ด้านตะวันตก ตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป ซึ่งการโจมตีนี้หลังจากบุกยึดโปแลนด์ได้แล้ว และ กองกำลังของอิตาลีได้เข้าร่วมในสงครามฝรั่งเศษแต่พวกเขาได้พ่ายแพ้ใน สมรภูมิด้านแอฟริกา

สงครามลวง
หลังจากการบุกโปแลนด์ ประเทศในยุโรปได้ประกาศสงครามเป็นทางการ แต่ก็ไม่มีการโจมตีเป็นทางการแต่อย่างใด เช่นอังกฤษและ ฝรั่งเศษเอง ซึ่งอยู่ในแผนการรวมพลเพื่อทำการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น ซึ่งก็อาจจะมีแต่การปะทะกันประปราย เท่านั้น ซึ่งกองทัพเยอรมันนีก็ยังอยู่ในสงครามในโปแลนด์ ซึ่งถึงแม้ทางสหรัฐอเมริกาก็ได้ยื่นมือเข้ามาเพื่อช่วยในการเจรจา สันติภาพ ซึ่งได้รับการปฎิเสธจากฝ่ายเยอรมัน ในช่วง กันยายน 1939 ถึง เมษายน 1940 ก็ไม่มีสงครามเกิดขึ้น ในอังกฤษ และ ฝรั่งเศษ ซึ่งเป็นช่วงสงครามลวงแห่งช่วงประวิติศาสตร์

กองกำลังเยอรมัน โจมตี ในยุโรปเหนือ
ในฤดูใบไม้ผลิปี 1940 ฮิตเลอร์ได้เป็นห่วงฝ่าย อังกฤษ และ ฝรั่งเศษ ที่ทางด้านใต้ ของทางประเทศนอร์แวร์และสวีเดนได้เกิดความพยายามในการตัดการส่งออกเหล็กสู่เยอรมันนี ซึ่งทำให้กองทัพของเยอรมันนีเข้าจู่โจม ยึดทั้งนอร์แวร์และ สวีเดน เพื่อควบคุมการขนส่งเหล็กและโลหะ ซึ่งกองในช่วงมิถุนายน กองกำลังของพันธมิตรได้เข้าช่วยเหลือแต่ก็ได้ถอยออกมาจากนอร์เวย์ในช่วงกรกฎาคมปีนั้น ซึ่งรัฐบาลของนอร์เวย์ในขณะนั้นก็ได้ ลี้ภัยสงครามออกมาพำนักอยู่ใน สหราชอณาจักร กองกำลังรบของเยอรมันได้รับชัยชนะในสมรภูมิของยุโรปตอนเหนือ

เยอรมันโจมตียุโรปตะวันตก
วันที่ 10 พฤษภาคม 1940 ช่วงก่อนรุ่งเช้า กองกำลังพลเยอรมันจาก 136 กองพลผสม หน่วยรถถึงจำนวน 10กองพล 7 หน่วยพลมอเตอร์ไซค์รถถังจำนวน 2,580 คันและเครื่องบินรบจำนวน 3,824 เข้าสู่สงครามยุโรปตะวันตก หน่วยกองกำลังที่แข็งแกร่งเข้าสู่กองกำลังยุโรปจะวันตก ได้เคลื่นกำลังเข้าสู่แต่ละประเทศ กองกำลัง 147 มาถึงในเวลาที่กำหนดกองทัพอากาศของเยอรมันได้เข้าทิ้งระเบิดใน ฮอล์แลนด์, เบลเยี่ยม, ลักเซมเบิร์ก และฝรั่งเศษ อย่างน่าเกรงขาม กองทหารพลร่มของเยอรมันได้เข้าสู่พื้นที่ของ ฮอล์แลนด์, เบลเยี่ยม หน่วยกองกำลังรถถังและ มอเตอร์ไซค์ ได้เข้าพื้นที่เพื่อป้องกันในแนวของ เทือกเขา Ardennes ใน เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก ฝ่ายเยอรมนีใช้อุบายการตีผ่านแนวเทือกเขาอาร์เดนเนส ซึ่งมีป่าปกคลุมหนาแน่น เพื่อโอบล้อม แนวป้องกันมายิโนท์(The Maginoet Line) ทำให้ฝรั่งเศษไม่สามารถต่อต้านได้ซึ่งไม่สามารถทำการต่อต้านได้ ในการโจมตียุโรปนี้ส่งผลกระทบต่อภาคยุโรปเช่น อังกฤษโดยตรง นายกรัฐมนตรีเนวิล แชมเบอร์แลน ( Neville Chamberlain ) ได้ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผลโดยตรงให้วินสตัน เชอร์ชิล ( Winston Churchill ) เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษแทน ในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1940 ผู้ที่สามารถรวมกลุ่มของ กลุ่มอนุรักษ์นิยม สหภาพแรงงาน และกลุ่มเสรีนิยมเข้าด้วยกันได้

กองทัพพันมิตรประกอบด้วย อังกฤษ และ ฝรั่งเศษ ได้ถูกโจมตีโดยยุทธ์วิธีการจู่โจมแบบสายฟ้าแลบอันเลื่องชื่อของกองทัพเยอรมัน. และ 14 พฤษภาคม ชาวดัชช์ได้ยอมจำนนแก่ฝ่ายเยอรมัน และเจ้าหญิงแห่งดัชช์ได้เสด็จลี้ภัยสู่อังกฤษ กองกำลังเยอรมันได้เคลื่อนเข้าสู่ช่องแคบอังกฤษ การติดต่อสื่อสารระหว่าง ด้านเหนือและ ด้านกลางของฝ่ายพันธมิตรได้ถูกตัดขาด วันที่ 25 พฤษภาคม ฝ่ายเบลเยี่ยมได้ยอมจำนน แก่ เยอรมัน และช่วงเวลา 27 พฤษภาคม ถึง 4 มิถุนายน ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรได้อพยพจากดันเคิร์ก เพื่อเคลื่อนย้ายสู่อังกฤษ ซึ่งก็ได้ทิ้งยุทโธปกรณ์หนักไว้เป็นจำนวนมาก

อิตาลี สู่ สงคราม และ ความ พ่ายแพ้ ของ ฝรั่งเศส
ในวันที่ 6 มิถุนายน 1940 กองกำลังเยอรมันได้เริ่มการโจมตี จาก ด้านเส้นพรมแดนด้านเหนือของฝรั่งเศษ ผู้บัญชาการ Maxime Weygand ได้สร้างแนวป้องกันซึ่งเรียกว่า Weygand Line ซึ่งประกอบด้วยทหารประมาณ 1ล้านคน และตลอดแนวแม่น้ำ Somme และแม่น้ำ Aisne แต่ก็ได้พ่ายแพ้กับ ฝ่ายเยอรมันเพียงสามวัน กองกำลังเยอรมันได้เข้าใกล้ปารีส วันที่ 10 มิถุนายน อิตาลีประกาศสงครามกับ อังกฤษ และ ฝรั่งเศษ วันที่ 14 มิถุนายน กองกำลังเยอรมันได้เข้ายึดครอง ปารีส วันที่ 17 มิถุนายร รัฐบาลฝรั่งเศษได้ ประกาศหยุดยิง “stopping the battle” เป็นผลให้ วันที่ 22 มิถุนายน ได้มีการเซ็นสัญญาในการสงบศึกของทั้งสองฝ่าย

กองกำลังพลจำนวน 32 กองพลแห่งอิตาลี ได้เคลื่อนพลเข้าในระยะ 200 กิโลเมตรแนวหน้าเข้าสู่เมริเตอร์เรเนียน แต่ถูกบล๊อคทางด้านทะเลจาก กองทัพเรือของฝรั่งเศษ 6 กอง 24 มิถุนายน ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างฝรั่งเศส-อิตาลีได้รับการลงนาม อิตาลีได้ครอบครองพื้นที่ส่วนหนึ่งใน ฝรั่งเศษ และได้ยึด Djibouti ใน ในแอฟริกาเหนือ และ ควบคุมรางรถไฟ ของฝรั่งเศษ ในโซมาเลีย กองกำลังเยอรมัน ยึดปารีส ใน14 มิถุนายน ปี 1940

ความพ่ายแพ้ของ อิตาลีใน แอฟริกา
ในช่วงสายในเดือนกรกฎาคมปี 1940 กองกำลังอิตาลี จากเอธิโอเปียได้บุกรุกเข้ากองกำลังอังกฤษใน แอฟรอกาเหนือ ได้ยึดพื้นที่โซมาเลีย และ เคนยาในช่วงสิงหาคม ในวันที่ 16 สิงหาคมได้ยึด Sidi Barrani ในอียิป กองกำลังของอังกฤษเข้าต่อต้าน ในช่วงวันที่ 11 ธันวาคม เพื่อยึดคืนพื้นที่ในลิเบีย ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1941 กองกำลังอังกฤษได้ยึดพื้นที่ครองได้ถึง 700 กิโลเมตรในช่วงสองเดือน และ จับกุมเชลยศึกได้ ถึง 130,000 นาย ทหารอังกฤษจาก อินเดีย ออสเตเลีย นิวซีแลนด์ และ แอฟริกา และวันที่ 20 พฤษภาคม กองกำลังของอิตาลีก็ยอมจำนนในสมรภูมิแอฟริกาตะวันออก กองกำลังอังกฤษเข้าควบคุม ทะเลแดง ในแอฟริกา

ปฎิบัติการ สิงโตทะเล และ สงครามเวหาในอังกฤษ
อังกฤษได้ต่อสู้อย่างเดียวดายหลังจากที่ฝรั่งเศษได้ปราชัยกับกองทัพเยอรมัน ฮิตเลอร์ประกาศให้อังกฤษยอมจำนนและยอมมาเป็นอณานิคมของเยอรมัน ซึ่งตรงนี้รัฐบาลของอังกฤษได้ทำการปฎิเสธอย่างเด็ดขาด นายนายพลเยอรมันจึงเสนอ วิธีในการโจมตีอังกฤษใน ปฎิบัติการสิงโตทะเล ซึ่งเชื่อว่าการข้ามทะเลนั้นไม่สามารถทำได้ง่ายหากไม่โจมตีจุดสำคัญในการป้องกันก่อน ซึ่งเป้าหมายของการโจมตีอยู่ที่ ฐานทัพอากาศ สนามบิน ท่าเรือต่างๆ ก่อนเปิดเส้นทางในการโจมตีทางภาคพื้นดินในการยึดครองเพื่อครองแสงยานุภาพเหนือน่านฟ้าและเตรียมการรบภาคพื้นดินบนเกาะอังกฤษ เยอรมันได้ ใช้เครื่องบินจำนวน 2,669 ลำในการนี้ แต่หลังจากการสู้รบ ได้สูญเสียนักบินไปถึง 600 นาย และ เครื่องบินรบ 915 ลำ ทำ ให้ปฎิบัติการสิงโตทะเล ต้องถูกเลื่อนออกไป แต่ความจริงก็คือ ต้องยกเลิกในเวลาต่อมา ซึ่งฮิตเลอร์สนใจในการบุกโซเวียตมากกว่า สงครามครั้งนี้อังกฤษได้รับชัยชนะในการรบเพื่อปกป้องประเทศของตน

การรุกราน Balkan จากเยอรมัน และ อิตาลี
วันที่ 21 กรกฏาคม ฮิตเลอร์ให้นายพลได้เตรียมกำลังพลเพื่อเตรียมการรบในการบุกยึดรัสเซีย ในชื่อปฎิบัติการ บาบารอสซ่า “Operation Barbarossa” วันที่ 27 กันยายน 1940 ญี่ปุ่น เยอรมัน และ อิตาลี ได้ลงนามใน สนธิสัญญา พันธมิตร ทาง ทหาร ใน เบอร์ลิน เพื่อฟอร์ม รัฐบาลผสม แอกอำนาจ อย่างเป็นทางการ. เยอรมนี และ อิตาลี ในขยายตัว ของ พวกเขา ในอนาคต ในคาบมหาสมุทรเมริเตอร์เรเนียน แอฟริกาเหนือ รัสเซีย โรมาเนีย ฮัลการี และ เบลเยี่ยม นับเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า "ฝ่ายอักษะ" 28 ตุลาคม 1940 อิตาลีบุกเข้ากรีซ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ.

ในช่วง 27 มีนาคม 1941 ยูโกสลาเวีย ปฏิเสธที่ จะเข้าร่วม ฝ่ายอักษะ และได้ทำการลงนาม สนธิสัญญามิตรภาพ กับ สหภาพโซเวียต ใน รุ่งเช้า ของ วันที่ 6 เมษายน เยอรมนี และ อิตาลี โจมตี ยูโกสลาเวีย และ กรีซ พร้อม กัน ที่ 13 เมษายน เยอรมัน ยึด เบลเกรด 9 เมษายน พวก เขายึด Thessaloniki ในกรีซ กองกำลังกรีซได้ยอมจำนน โซเวียดได้เข้าเป็นกองกำลังสำคัญในการต่อต้านลัทธิเผด็จการ หลังการโจมตีของเยอรมัน

เยอรมันเข้าโจมตี โซเวียต
ก่อนรุ่งอรุณ กองกำลังเยอรมันเข้าโจมตีโซเวียต จาก แนวหน้า 1800 กิโลเมตรห่างจากทะเลดำ และ ทะเลบอลติก กองทัพโซเวียต ได้แพ้สงครามในอียิป กองทัพได้สุญเสียกำลังพลอย่างหนักจากการโจมตีจากฝ่ายข้าศึก ซึ่งโดยรวมโซเวียติเสียเปรียบทั้งหมด ทั้งจากเทคโนโลยี อาวุธ เศรษฐกิจ ความพร้อมของทหารในการรบ แต่สตาลินผู้นำ ของโซเวียดไม่เชื่อในการโจมตีของฝ่ายเยอรมันว่ามีแบบแผนเท่าไหร่ แต่อย่างไรนั้นโซเวียตก็ไม่พร้อมกับการรบในช่วงนั้น จึงก็ต้องสุญเสียกำลังพลไปมากมาย ในช่วงแรกของสงคราม

โซเวียดแนวหน้าด้านตะวันออก
ในช่วงสงครามโปแลนด์ โซเวียต ได้เริ่มการสร้างแนวป้องกัน จากทะเลบอลติด ไป ยังทะเลดำ เพื่อป้องกันการบุกของเยอรมัน ใน วันที่ 17 สิงหาคม กองโซเวียตได้เข้าไปยึดพื้นที่ของโปแลนด์ เพื่อยึดพื้นที่กว่า 200,000 ตารางกิโลเมตร เของ ดิน แดน ตะวันตก และ ตะวันตก ยูเครน เบลารุส. ช่วงพฤจิกายน ยูเครนตะวันตก และ เบลารุสตะวันออก เข้าร่วมกับ โซเวียต

ในช่วง 30พฤศจิกายน 1939 ช่วงสงครามโซเวียต ฟินแลนด์ กำลังระอุ 12 มีนาคม 1940 โซเวียต ได้ยึดพื้นที่กว่า 4,100 ตารางกิโลเมตร ก่อนพิ้นที่เมือง เลนินการ์ด แล้วขยายไปทางเหนือประมาณ 150 กิโลเมตร ตามข้อตกลงของ “ข้อตกลงโซเวียตฟินแลนด์” ทำให้ คาบสมุทรHanko และ หมู่เกาะโดยรอบได้ทำการให้โซเวียติเช่าเป็นเวลา 30 ปี

ในช่วง 15 มกราคาม 1940 โซเวียติได้ได้ส่งกองกำลัง เข้ายึดอีก 174,000 ตารางกิโลเมตร ใน พื้นที่ ของ เอสโตเนีย และ ลัตเวียลิทัวเนีย หลังจาก ที่ รัฐบาลลิทัวเนีย ละเมิด "สนธิสัญญา สันติภาพ โซเวียต-ลิทัวเนีย "เป็นพันธมิตร กับ ทหารโซเวียต เอ สโตเนีย และ ลัตเวีย ต้นเดือน สิงหาคม สามประเทศตามแนวชายฝั่งทะเล บอลติค ได้ รวมเป็นสหภาพโซเวียต วันที่ 28 มิถุนายน 1940 สหภาพ โซเวียต ครอบครอง พื้นที่ ทั้งหมด 51,000 ตารางกิโลเมตรกิโลเมตร ของ Bessarabia และ Bukovinaเหนือ ซึ่ง ถูกควบคุมโดยโรมาเนีย

ดังนั้น สหภาพ โซเวียต ได้ขยายขอบเขต 300-400 กิโลเมตร ทางตะวันตกแต่กองทัพเยอรมัน หลังจาก สาม เดือน ของ การรบมีการรุกล้ำพื้นที่ประมาณ 300-600 กิโลเมตร จากสามเส้นทางสู่ดินแดนของ สหภาพโซเวียต 28 มิถุนายน เยอรมันได้เข้ายึด มินสก์แนวหน้าด้านตะวันออกของโซเวียตไมได้ทำตามกฎ

การสู้รบที่มอสโคว
กองกำลังเยอรมันได้เข้าโจมตีมอสโคว ในช่วง 30 สิงหาคม 20 กิโลเมตรจากกลางกรุงมอสโคว 20ตุลาคม สหภาพ โซเวียต รัฐบาล และ บางคนงาน มอสโคว์ evacuated. ใน วันที่ 6 ธันวาคม ยก สหภาพโซเวียต โจมตีโต้กลับ ฝ่ายเยอรมัน หลังจาก หลังจากถูกโจมตี พวกเขา. 8 มกราคม 1942, สหภาพ โซเวียต สำเร็จ กรอบ อันตราย ของ มอสโก ที่ ถูกจู่โจม โดย เยอรมัน และ ผลักดันกองกำลัง ออกจาก กรุง มอสโก หลังจาก ที่ สามเดือน ของ รบ. กองกำลังเยอรมัน จำนวนกว่าผู้บาดเจ็บทั้งหมด ถูก กว่า 830,000 นาย เมื่อ ศึกฤดูหนาว สิ้นสุด. กองทัพเยอรมัน พบ ความ ล้มเหลว ที่สำคัญ เป็น ครั้งแรก. การสงครามสายฟ้าแลบ ฮิตเลอร์ พบกับความพ่ายแพ้

การโจมตีของเยอรมันช่วงฤดูร้อน
ที่ 28 มิถุนายน 1942 กองทหารเยอรมัน เริ่มโจมตีภาคใต้ เพื่อ ลดกำลังหลักของกลุ่ม สหภาพ โซเวียต ใน พื้นที่ดอน ริม แม่น้ำ และ ยึดพื้นที่ คอเคซัสสำหรับแหล่งน้ำมัน 17 กรกฎาคม กองกำลังเยอรมัน เข้าสู่ดอนแม่น้ำ เพื่อเริ่มต้นการศึก Stalingrad 13กันยายน เยอรมัน เจาะเข้าใน เขต เมืองเพื่อ เริ่มต้น การ ต่อสู้คีอ เยอรมัน ไม่สามารถ ยึดเมืองได้Stalingrad อย่างสมบูรณ์และพบกับความเสียหายอย่างหนัก และถูกจับเป็นเชลยจำนวนมาก จนเป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้งของสงคราม

สมรภูมิภาคแปซิฟิค
กองทัพญี่ปุ่นเข้าจู่โจม Peal Habor เป็นจุดเริ่มของสงครามแปซิฟิค Pearl Harbor ในเช้าตรู่ วันอาทิตย์ ที่ 7 ธันวาคม คือสาเหตุ ที่ทำให้สหรัฐอเมริกา ประกาศสงครามกับญี่ปุ่น และเข้าร่วม ในสงครามโลก ครั้งที่ 2 อย่างเต็มตัว

ปฎิบัติการโจมตี Pearl Habor

ในช่วงเดือนตุลาคมนายพลฮิเดกิโตโจ ได้รวมกำลังพลทหารทัพอากาศของญี่ปุ่น ในในก่อนรุ่งเช้า วันอาทิตย์ ที่ 7 ธันวาคม เข้าจู่โจมฐานทัพเรือ Pearl Harbor เกาะโออาฮู ใน สหรัฐทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากกับ กองทัพเรือของสหรัฐ วันที่ 8 ธันวาคม ประเทศสหรัฐ และ อังกฤษ จึงประกาศทำสงครามกับประเทศญี่ปุ่น วันที่ 11 ธันวาคม เยอรมัน และ อิตาลี ได้ประกาศสงคราม กับอเมริกา การจู่โจมครั้งนี้ ฝ่ายอเมริกาได้สูญเสียเป็นอย่างหนัก และเป็นจุดเปลี่ยนของสงคราม ที่ทำให้อเมริกาเข้าร่วมสงครามครั้งนี้โดยตรง

กองทัพ ญี่ปุ่นเข้าโจมตี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ญี่ปุ่น เข้าโจมตี เอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ และ แปซิฟิกตะวันตกเฉียงใต้ 7 ธันวาคม 1941 ญี่ปุ่นยึด เกาะกวม วันที่ ธันวาคม 10 เกาะเวก ในวันที่ 22 ธันวาคม บุกเข้ายึดเกาะฮ่องกง ในวันคริสต์มาส ใน 7-8 ธันวาคม ที่ดินใน Kota Bharu ใน ประเทศ มาเลเซีย และ จังหวัด สงขลา และ ปัตตานี ใน ประเทศไทย 10ธันวาคม ญี่ปุ่น ได้ทะเล และ การควบคุมทางอากาศ ของ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 11 มกราคม 1942 พลากร ญี่ปุ่นยึดกรุงกัวลาลัมเปอร์ โจมตี และ ครอบครอง Malaya วันที่ 31 มกราคม 15 กุมภาพันธ์ ญี่ปุ่น ครอบครองSingapore ญี่ปุ่น ยัง ทำการโจมตี ประเทศไทย จาก อินโดจีน 9 ธันวาคม 1941 พวก เขา บุกยึดกรุงเทพ 21 ธันวาคม 1941 ญี่ปุ่น บังคับ สนธิสัญญา ของ พันธมิตร ที่ รัฐบาล ไทย 2 มกราคม 1942 ได้ เข้า กรุงมะนิลา ได้จับเชลยศึก 70,000 นาย จาก สหรัฐอเมริกา ทหาร และ พลากร ฟิลิปปินส์ เมษายน 9 พฤษภาคม ผู้บัญชาการทหารอเมริกาออกคำสั่ง ยอมแพ้ ของกองกำลังที่เหลือในฟิลิปปินส์

14 กุมภาพันธ์ 1942 พลากร ญี่ปุ่น ส่ง เครื่องบินรบ320 เข้าบริเวณ ช่อง เกาะ สุมาตรา ของ น้ำมัน ปาเลมบัง ในอินโดนีเซีย วันที่ 1 มีนาคมกองกำลังญี่ปุ่น เข้า ครอบครอง Batavia (ในชื่อของกรุง จาการ์ต้า ในปัจจุบัน) ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 12 มีนาคม กองกำลัง ดัตซ์ ยอมจำนน วัน ที่ 15 มีนาคม ญี่ปุ่น ยึดอินโดนีเซียได้ทั้งหมด

8 มีนาคม 1942 ญี่ปุ่น เข้ายึด Rangoon ในการร้องขอ จาก รัฐบาลอังกฤษ, จีนได้ ส่ง กองทหารกว่า 100,000 นาย ให้ความ ช่วยเหลือ กองทหาร พม่า และ อังกฤษ ใน ศึก. ใน ช่วงต้น เดือนพฤษภาคม นี้ ญี่ปุ่น ได้เข้าไปใน จังหวัด ยูนนาน ใน จีน. ญี่ปุ่น ถูกป้องกัน โดย กำแพงธรรมชาติ ที่สูงชัน ของ แม่น้ำสะละวิน

5 เมษายน 1942 เครื่องบินญี่ปุ่น เข้า มหาสมุทร อินเดีย พวก เขาได้ทิ้งระเบิด โคลัมโบ และ ท่าเรือ Trincomalee ใน ศรีลังกา ชายทะเล ตะวันออก แอฟริกา และ ทำให้กองเรือญี่ปุ่น มีอำนาจในการครอบครอง มหาสมุทร อินเดีย.

สงครามหมู่เกาะจีน อเมริกา

ญี่ปุ่น โจมตี และ ครอบครอง New Britain หมู่เกาะ และ Rabaul ท่าเรือ ซึ่งมีการป้องกัน โดย กองทหารออสเตรเลีย ในเดือน กุมภาพันธ์ 1942 ใน ช่วงต้น พฤษภาคม ญี่ปุ่น โจมตี เกาะ โซโลมอน หมู่ เกาะ และ พอร์ต มอร์สบี ชายฝั่ง ตะวันออกเฉียงใต้ ของ เกาะ ปาปัวนิวกินี. พฤษภาคม 7, สหรัฐอเมริกา ของ เครื่องบินโจมตีอเมริกาได้เข้าโจมตีเครื่องบิน ของ ญี่ปุ่น วันที่ 8 พฤษภาคม เครื่องบินโจมตีอเมริกาได้เข้าโจมตีเครื่องบินของ ญี่ปุ่น แต่มีบางลำได้รับความเสียหาย เป็นความ พ่ายแพ้ครั้งแรก นับ ตั้งแต่ ญี่ปุ่น เริ่มต้น สงครามแปซิฟิคPacific

ในช่วงหลังของของสมรภูมิการรบ ในการสู้รบในแนวรบสองด้านของสงคราม กองกำลัง พันธมิตรได้เจาะแนวป้องกันของฝ่ายอักษะลงได้ และฝ่ายพันธมิตรได้ร่วมมือกันทุกด้าน ถึงช่วงสุดท้าย

วันที่ 6 มิถุนายน 1944 กองทหาร 5 กองพล และ พลร่ม 5กองพล จากกองสัมพันธมิตรทั้งจากอเมริกา อังกฤษ และ แคนาดา ยกพลขึ้นบกเข้าสู่พื้นที่ของหาดนอร์มังดี ภายใต้ชื่อแผนปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด (Operation Overlord) ประเทศฝรั่งเศษ กองกำลังพันธมิตร ประกอบด้วยทหาร 2,876,000 นาย, เรือรบ 6,500 ลำ, เครื่องบินรบ11,000 ลำ และ เรือขนส่ง 2,700 ลำ เข้าสู่สมรภูมิ 12 มิถุนายน กองทหารอีก 326,000 นายได้เข้ามาเสริม เป็นสมรภูมิ ครั้งใหญ่ในการปลดปล่อยยุโรปจากการยึดครองของเยอรมัน และ เป็นศึกที่น่าจดจำอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก

หลังจากฝ่าแนวป้องกันยุโรปมาได้ ก็บุกทะลวงเข้าไปที่ ฝรั่งเศษ แล้วเดือนสิงหาคมก็ยึดฝรั่งเศษคืน จากเยอรมัน และทำให้กองทัพเยอรมันต้องถอยร่นกลับออกไป เยอรมันได้ทำแนวป้องกันไว้ทุกหนแห่ง ฮิตเลอร์ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการพยายามลอบสังหาร ก็สั่งให้ทหารสู้อย่างเต็มกำลัง การโต้ตอบนั้นเป็นเวลาหลายสัปดาห์ จนเดือนมีนาคม กองทัพ พันธมิตรก็นำกำลังข้ามแม่น้ำไรห์นไปได้ และ เร่งเข้ากรุงเบอร์ลินก่อนที่ กองทัพของโซเวียต จะเดินทางมาถึง เนื่องจากนโยบายไม่อยากให้เกิดปัญหาความไม่พอใจต่อสตาลิน ดังนั้นกองทัพพันธมิตรจึงหยุดทัพแล้วปล่อยให้กองทัพโซเวียต เดินทางเข้ากรุงเวียนนา เข้ากรุงเบอร์ลิร และ อีก2 สัปดาห์ ถึงกรุงปร๊าก

30 เมษายน ฮิตเลอร์ฆ่าตัวตายเคียงข้างภรรยาที่พึ่งแต่งงานกันไปไม่นาน ในกองบัญชาการที่ตั้งอยู่ภายใต้ซากในกรุงเบอร์ลิน อีกไม่กี่วันต่อมา กองทัพเยอรมันก็ประกาศยอมแพ้สงคราม สงครามในยุโรป ก็ยุติในวันนี้ 7 พฤษภาคม 1945

สมรภูมิด้านตะวันออกไกล
นั้นสิ้นสุดไวกว่า ยุโรปเล็กน้อย นับแต่เดือนตุลาคม 1945 รัฐบาลญี่ปุ่นรู้ดีว่าต้องแพ้สงคราม หลังจากการรบที่อ่าวเลเต้ ซึ่งเป็นการรบทางทะเลที่ใหญ่ที่สุด กองทัพสหรัฐสร้างความเสียหายให้กองเรือญี่ปุ่น จนสามารถเอาหมู่เกาะฟิลิปปินส์คืนมาได้ เมือได้ฟิลิปปินส์ คืนมาแล้วก็ครอบครองเส้นทางทะเล ไปหมู่เกาะ ดัชท์ อีส์ อินดีส์ ควบคุมบ่อน้ำมันในอินโดนิเซีย การรบของกองทัพอังกฤษ สามารถมีชัยชนะเอาพม่าคืนจากญี่ปุ่นได้สำเร็จ และการช่วยเหลือ อเมริกาไปถึงเจียงไคเชค บนผืนแผ่นดินจีนได้อีกครึ่งหนึ่ง

ในฤดูร้อนปี 1945 เครื่องบินทิ้งระเบิดไปตามเมืองต่างๆ ของญี่ปุ่นอย่างรุนแรง เพราะสหรัฐรู้ดีว่าการรบทางทะเลต้องสูญเสียอย่างมหาศาล เพราะ ญี่ปุ่นต้องยอมตายเพื่อปกป้องมาตุภูมิ และ องค์จักรพรรดิของตน ดังนั้น ประธานาธิปดีสหรัฐจึงตัดสินใจใช้ อาวุธมหาภัยแทนการใช้กำลังรบ

วันที่ 6 และ 9 สิงหาคม วันแห่งประวัติศาสตร์โลก ระเบิด ปรมาณูสองลูกถูกทิ้งไว้ที่ เมืองอิโรชิมา และ นางาซากิ ในญี่ปุ่น อำนาจมหาศาลของระเบิด ส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นล้มตายนับแสนคน ในวันที่ 2 กันยายน องค์จักรพรรดิญี่ปุ่นมีคำสั่งให้ทหาร ทั้งหมดวางอาวุธและ ประกาศยอมแพ้สงคราม เพื่อรักษาชาติพันธ์ของคนญี่ปุ่นไว้ นักรบสายเลือดบูชิโด้อันแกล้วกล้า ต้องกล้ำกลืนฝืนความอัปยศกระทำการฮาราคีรีคว้านไส้ตัวเองหนีความอับอายล้มตายไปเป็นจำนวนมาก

สงครามโลกครั้งที่สองก็ถึงการยุติ สงครามที่ชาวโลกไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก


War Outcome

กองกำลังของฝ่ายอักษะได้ยอมจำนนกับในปี 1945 ทุกประเทศที่ได้ทำสงคราม สูญเสียสิ่งต่างๆ ในช่วงสงครามก็ได้รับความตอบแทนก็คือความสงบสุขแก่สังคมโลก ชัยชนะครั้งสุดท้ายใน ศึกการต่อต้านลัทธิเผด็จการ

ประเทศต่างๆ ทำงานร่วมกันเพื่อ ดำเนินการแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้นเพื่อวางแผนแก้ไขปัญหา การ รักษา สันติภาพ และ จัดการ กับ ผลที่ตามมา ทั้งหมด หลัง สงคราม.

ความสูญเสียหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

จากที่ได้ประมาณการหลังสงครามโลกเกี่ยวกับผลของผู้เสียชีวิตของสงครามอันยาวนานได้มีการประมาณว่ามีส่วนใหญ่ได้เสนอว่าคิดเป็นจำนวนมากกว่า 60 ล้านคน ประกอบไปด้วยทหารอย่างน้อย 22 ล้านคน และพลเรือนอย่างน้อย 40 ล้านคน จากความสูญเสีย 85% เป็นของฝ่ายสัมพันธมิตร และอีก 15% เป็นของฝ่ายอักษะ

สาเหตุเสียชีวิตของพลเรือนส่วนใหญ่นั้นมาจาก การโจมตีระหว่างสงคราม โรคระบาด การอดอาหาร และ ผลทางอ้อมอื่นๆ ด้านสหภาพโซเวียตสูญเสียประชากรในระหว่างสงครามราว 27 ล้านคนระหว่างช่วงสงคราม คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของความสูญเสียทั้งหมดระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง

จำนวนการเสียชีวิตจำนวนมากเป็นผลมาจากการล้างชาติพันธุ์ที่เกิดขึ้นในดินแดนภายใต้การยึดครองของฝ่ายอักษะ ซึ่งถูกกระทำโดยชาวเยอรมันและชาวญี่ปุ่น โดยเหตุการณ์ที่เป็นที่รู้จักกันดีของอาชญากรรมสงครามชาวเยอรมัน ได้แก่ การล้างชาติพันธุ์โดยนาซี ซึ่งเป็นค่ายกักกันชาวยิวระหว่างสงคราม ซึ่งเป็นการล้างชาติอย่างเป็นระบบในเขตยึดครองของเยอรมนีและพันธมิตร โดยนอกจากชาวยิวแล้ว ยังมีกลุ่มชาติพันธุ์หรือกลุ่มความคิดอื่น ๆ ถูกสังหารอีกเป็นจำนวนกว่า 5 ล้านคน และด้านทหารญี่ปุ่นก็ได้สังหารพลเรือนราว 3 - 10 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ระหว่างสงครามโลกครั้งทีสอง และก็มีบางส่วนถูกจับมาทดลอง ณ ค่ายกักกันทางทหาร ทั้งเยอรมนีและญี่ปุ่นได้มีการทดลองอาวุธกับพลเรือนและเชลยสงครามจำนวนมาก

บทกำเหนิดสงครามเย็น
สงครามเย็น (อังกฤษ: Cold War) เป็นการต่อสู้กันระหว่างกลุ่มประเทศ 2ฝ่าย ที่มีการเมืองแตกต่างกัน เกิดขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งสงครามนี้เกิดโดยการไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน ฝ่ายหนึ่งคือสหภาพโซเวียต เรียกว่า ค่ายตะวันออกซึ่งปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ อีกฝ่ายหนึ่ง คือ สหรัฐอเมริกาและกลุ่มพันธมิตร เรียกว่า ค่ายตะวันตก ซึ่งปกครองด้วยระบอบเสรีประชาธิปไตย ซึ่งสองฝ่ายได้ทำการแข่งขันกันด้านต่างๆ เช่นการสะสมอาวุธ เทคโนโลยีต่างๆ การแข่งขันทางอวกาศ ระบบใต้ติน เศรษฐกิจ และ จุดเริ่มของสงครามตัวแทนในที่ต่างๆ ทั่วโลก

สงครามเย็นเป็นภาวะอย่างหนึ่งที่ประเทศมหาอำนาจทั้ง 2 ฝ่ายต่างแข่งขันกัน โดยพยายามสร้างแสนยานุภาพทางการทหารของตนไว้ให้เกรงขามกว่า ฝ่ายตรงข้าม โดยประเทศมหาอำนาจจะไม่ทำสงครามกันโดยตรง แต่จะสนับสนุนให้ประเทศพันธมิตรของตนเข้าทำสงครามแทน หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสงครามตัวแทน (Proxy War) เหตุที่เรียก สงครามเย็น เนื่องจากเป็นการต่อสู้กันระหว่างมหาอำนาจ โดยใช้จิตวิทยา ไม่ได้นำพาไปสู่การต่อสู้ด้วยกำลังทหารโดยตรงอย่าง สงครามร้อน

สงครามตัวแทนที่เกิดขึ้นในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

สงครามเกาหลี (ค.ศ. 1950-1953)
ฝ่ายเกาหลีเหนือ ประกอบด้วย รัสเซีย จีน ฝ่ายเกาหลีใต้ ประกอบด้วย สหประชาชาติ นำด้วยอเมริกา อังกฤษ และ ชาติอื่นๆ กว่า 16 ชาติ รวมถึงประเทศไทย สงครามจบลงโดยการเจรจาหยุดยิงมา ถึงทุกวันนี้ โดยไม่มีฝ่ายไหน ชนะหรือแพ้

สงครามเวียดนาม (ค.ศ. 1957-1975)
ฝ่ายเวียดนามเหนือ ประกอบด้วย รัสเซีย จีน ฝ่ายเวียดนามใต้ ประกอบด้วย สหประชาชาติ นำด้วยอเมริกา อังกฤษ

สงครามจบด้วย การพ่ายแพ้ของ อเมริกาโดยการถอนกำลังทั้งหมด กรุงไซง่อนเมืองหลวงแตกในเดือนเมษายน 1975 และการเดินขบวนประท้วงในอเมริกาที่ต่อต้านสงคราม เป็นสงครามที่บาดแผลเลวร้ายครั้งหนึ่งของอเมริกา

สงครามอัฟกานิสถาน (ค.ศ. 1979-1989)

ฝ่ายกลุ่มมูญาฮิดีนก่อกบฏต่อต้านโซเวียต สหรัฐอเมริกา ซาอุดิอาระเบียและปากีสถาน ีนักรบมุสลิมจากต่างชาติ และ ฝ่ายรัสเซีย

รัสเซียเป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงคราม เป็นสงครามบาดแผลอันปวดร้าวของ ฝ่ายรัสเซีย ว่ากันว่าที่นี่คือ สงครามเวียดนามของ โซเวียต

เหตุการณ์สำคัญช่วงสงครามเย็น

องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO)
องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organization) หรือ นาโต (NATO) เป็นองค์กรระหว่างประเทศเพื่อความร่วมมือในการรักษาความสงบ ได้กำเนินการก่อตั้งเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1949) ปัจจุบันประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 28 ประเทศ

ประเทศสมาชิกก่อตั้งประกอบด้วย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ เบลเยียม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส โปรตุเกส และ ภายหลังก็มีพันธมิตรเข้ามาอีกมากมาย มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม

สนธิสัญญาวอร์ซอ
สหภาพโซเวียตโจมตีว่า องค์การนาโต้มีวัตถุประสงค์เพื่อรุกราน จึงได้ตั้งองค์การสนธิสัญญาวอร์ซอ ขึ้นในปี ค.ศ. 1955 ชื่อเต็มและชื่ออย่างเป็นทางการ เรียกว่า Warsaw Treaty on Friendship Cooperation and Mutual Aid or Warsaw Treaty Organization

องค์การสนธิสัญญาวอร์ซอ มีบทบัญญัติทำนองเดียว กับข้อ 5 ของ องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ ที่ว่า การโจมตีสมาชิกรัฐใดรัฐหนึ่ง จะถือว่าเป็นการโจมตีรัฐสมาชิกทั้งหมด และข้อ 5 ของบทบัญญัติ ยังได้ระบุถึง การบัญชาการทหารร่วมกันด้วย สนธิสัญญาวอร์ซอได้ถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการที่กรุงปราก ในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2534 (ค.ศ. 1991)

พอถึงช่วงปี 1970 ความตรึงเครียดบรรเทาลงในยุโรป โดยมีการเจรจากันของผู้นำทั้งสองฝ่าย ทำให้สงครามครั้งนี้ยุติลง

ที่มา war2.mysquare.in.th